ประกาศ! ห้ามใช้ฟอนต์ DB ผ่าน AI โดยไม่ซื้อ... อ่านรายละเอียด
DB PuiMake

พอเริ่มตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า ‘จะปรับปรุง DB FongNam ให้ดูผ่อนคลายขึ้นได้อย่างไร?’ สิ่งแรกที่ผมนึกขึ้นมาได้ คือ ต้องลองทําปลายเส้นตัวอักษรของ ‘ฟองน้ํา’ ให้มนดู ทั้งตัวปรกติ (Regular) และตัวหนา (Bold). หลังจากลองทํา ‘ฟองน้ํา’ ให้ปลายมนดูแล้วกลับพบว่า มันไม่มากพอที่จะสร้างความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้! เหตุผลแรกคือ DB FongNam เดิมมีน้ําหนักเส้นตัวปรกติค่อนข้างบาง ขณะที่ตัวหนาก็ไม่ค่อยหนานัก จึงทําให้เราแทบไม่สังเกตเห็นปลายที่ถูกทําให้มนแม้จะใช้ที่ขนาด 48 ปอยต์ก็ตาม. เหตุผลที่สอง (ซึ่งอาจสําคัญกว่า) คือ DB FongNam เป็นฟอนต์ตัวเนื้อของไทยตัวแรกๆ ที่ออกแบบขึ้นใหม่ในยุคต้นของตัวพิมพ์ดิจิตอล ซึ่งสามารถใช้งานได้เหมาะสม ทั้งแบบเป็นทางการ (เพราะความเป็นระบบระเบียบของมัน) และแบบไม่เป็นทางการ (เพราะรูปทรงเรขาคณิตและความ เรียบง่ายของมัน) จึงทําให้ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางจนเป็นที่คุ้นเคยสายตาคนไทยมาก. ดังนั้น วิธีที่จะ ‘ปรับปรุง สายพันธุ์ใหม่’ เพื่อสนองประโยชน์ใช้สอยใหม่ จึงจําเป็น ต้องทําอะไรที่มากกว่าปลายเส้นมน. สิ่งที่ผมตัดสินใจทําเพิ่มทั้งหมดจนจบเรียกรวมๆ ว่า ‘การทําให้โปร่งขึ้น’ มีรายละเอียดย่อๆ ประมาณนี้

  • ตัวอักษรที่มีเส้นล่างเป็นเส้นตรงของ ‘ฟองน้ํา’ เช่น บ, อ, ย ฯลฯ ถูกแก้เส้นล่างโค้งครึ่งวงกลมเป็น บ, อ, ย
  • ตัว ข, ช, ช เดิม ถูกขยายระยะความกว้างระหว่างเส้นหน้าเส้นหลังขึ้นเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนเส้นล่างเป็นโค้ง เช่นกันเป็น ข, ช. ซ. โดยเฉพาะตัว ซ ลองเปิดหัวกลมออกเป็น ซ เพื่อเผยให้เห็นหยักชัดเจนขึ้นไม่สับสนกับ ช ในขนาดตัวพิมพ์จิ๋วๆซึ่งฟอนต์ทั่วไปมักสับสนกัน
  • ตัว ร, ธ, ฐ เดิม เปลี่ยนเส้นตรงแนวระดับให้เทลาดมาทางขวามือเป็น ร, ธ. ฐ
  • ตัว ท, พ, ห ฯลฯ ลดความทึบที่เส้นฐานอย่างง่ายๆ โดยการเลื่อนปลายล่างของเส้นทแยงจากเดิมซึ่งอยู่บนเส้นฐานให้สูงขึ้นเป็น ท. พ. ห
  • ตัว ง. จ. น, ม ฯลฯ เดิม เพิ่มส่วนโค้งเล็กๆ ให้มุมที่ฐานเป็น ง, จ. น, ม
  • ตัว ก (และตัวอักษรคล้ายของมัน) ซึ่งมีปากทแยง เป็นเอกลักษณ์ของ “ฟองน้ํา" ถูกแก้ปากให้โค้งเป็น ก เพื่อความกลมกลืนกับตัวอื่นๆ
  • ตัว ค, ด, ต เดิม ถูกขยายความกว้างเล็กน้อยแล้วลดระดับส่วนหัวให้ต่ำลงเป็น ค. ด, ต เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างภายใน
  • ตัว ส, ศ เดิม มีหางลากจากภายในลําตัว ทําให้โปร่งขึ้น โดยแก้หางให้ลากจากเส้นบนโค้งเลยเส้นหลังออกไป เป็น ส, ศ (หางที่เยื้องออกไปจากเส้นหลังเมื่อมีสระ กํากับในขนาดปอยต์เล็กๆ จะดูชัดเจนอยู่ว่าเป็น ส ไม่ใช่ ล)
  • ชุดตัวเลขไทยของเดิมค่อนข้างเตี้ยและป้าน ถูกแก้ ให้กลมโตดูโปร่งตาขึ้น เลื่อนหัวเลข ๑ เดิมไปชิดเส้นหน้าเป็น ๑. รอยหยักเลข ๓ เดิมถูกรุ่นสูงให้โปร่งเป็น ๓, เลข 5 เดิมทําให้กลมอ้วนขึ้นเป็น 5 (สังเกตหางต้อง ปรับตั้งขึ้นไปเพื่อไม่ให้กินพื้นที่ด้านหน้า ส่วนบน) ฯลฯ

ตัวอักษรโรมันก็เช่นกัน เป็นการนํา Avant Garde มาทําปลายมน. จากนั้นทําให้โล่งขึ้นด้วยการตัดทอนส่วนของเส้นแนวตั้งที่ไม่จําเป็นของตัวพิมพ์เล็ก a, b, d, g, m, n, p, q, r และ u ออก สังเกตตัว a จําเป็นต้องเพิ่มโค้งที่ปลายเส้นดิ่งเล็กน้อยเพื่อ ให้ดูแยกแยะออกจาก o ได้ง่าย และส่วนโค้งบนของ r จะยาวขึ้นจากต้นแบบเดิม เพื่อให้ดูโปร่งสังเกตง่าย. ปลายล่าง ตัว l และ t ถูกเติมโค้งให้ดูนุ่มนวลกลมกลืนกันทั้งชุด. ส่วนตัวพิมพ์ใหญ่ทําให้ดูกันเองมากขึ้นโดยการปรับระดับเส้นนอนกลางลําตัวของ B, E, F. H ที่เคยอยู่ประมาณครึ่งของความสูงให้ลดต่ำลงเป็น B, E, F, H. จุดบรรจบของเส้นทแยงกลางตัว M เดิมเลื่อนจากที่เคยอยู่เส้นฐาน ให้สูงขึ้นเป็น M. ตัว W ก็ถูกปรับแต่งให้โปร่งเป็น W ในทํานองเดียวกัน.

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเส้นล่างตรงเป็นโค้งของ บ, อ, ย ฯลฯ, การเพิ่มโค้งเล็กๆ ที่มุมของ ม, น ฯลฯ รวมเข้ากับปลายเส้นอักษรทั้งชุดที่ถูกทําให้มนนั้นบังเอิญไปพ้องรูปกับตัวอักษรแบบล้านนานิดๆ. หรือดูอีกนัยหนึ่ง อักษรใหม่ชุดนี้สลัดความเป็นระบบระเบียบอย่างตัวพิมพ์ฟองน้ําที่เกิดจาก ‘เครื่องมือ’ ไปสู่ตัวพิมพ์ที่เกิดจากการเขียนวาดด้วยน้ํามือมนุษย์ (Humanist Type) มากขึ้น แม้ว่าส่วนโค้งใหม่ๆ ส่วนใหญ่ที่เพิ่มเติมขึ้นจาก DB FongNam จะยังคงเกิดจากรัศมีวงกลม.

ฟอนต์ใหม่ชุดนี้ถูกขยายเป็น 4 น้ําหนัก โดยเปลี่ยนน้ําหนักตัวที่ปรับปรุงจาก Regular และ Bold ของ DB FongNam เดิมเป็น Light และ Medium ตามลําดับ แล้วเพิ่ม Regular กับ Bold เข้าไป. กับงานสิ่งพิมพ์ที่อ่านในระยะใกล้ๆ เมื่อทดสอบพิมพ์ที่ขนาด 16-20 ปอยต์ ดูจะเห็นความแตกต่างจากต้นแบบเดิมค่อนข้างชัด ยิ่งใช้ ในขนาดโตๆ 60 ปอยต์ขึ้นไป เราจะสัมผัสได้ว่าดูอิสระเป็นกันเองขึ้นกว่าเดิม.

เมื่อ “ฟองน้ํา" เปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอ รูปทรงจะดูเป็นอิสระ ผ่อนคลาย เช่นเดียวกับฟอนต์ใหม่ที่ได้ออกมา ในที่สุดจะไปรวมกันอยู่บนฟ้า ชื่อที่เหมาะสมสําหรับฟอนต์ใหม่ตัวนี้จึงควรเป็น DB PuiMake

เพราะเมฆเกิดจากน้ํา เช่นเดียวกับ ’ปุยเมฆ’ ที่เกิดจาก ‘ฟองน้ํา’ นั่นเอง

จากคอลัมน์ a font a month
idesign magazine ฉบับ August 2009