![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/573.jpg?itok=fVUaCp3T)
เมื่อโลกตะวันตกก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม มีตัวพิมพ์แหวกแนวชุดหนึ่งถือกําเนิดขึ้นโดยฝีมือ Paul Renner ผู้เป็นทั้งนักออกแบบหนังสือและนักเขียน, หน้าตาของตัวพิมพ์ชุดนั้น ดูราวกับเกิดขึ้นจากเครื่องมือเครื่องจักรแห่งอารยธรรม มากกว่าจากน้ํามือมนุษย์ธรรมดาผ่านอุปกรณ์สามัญ เช่น สิ่ว ค้อน, ปากกาคอแร้ง ฯลฯ. รูปลักษณ์อักษรโรมันแบบเดิมๆ ถูกจัดระเบียบใหม่ให้อยู่ในรูปทรงเรขาคณิต มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางศิลปะที่ถูกใช้สื่อสารกับสังคมให้เปิดรับความเป็นจริงแห่งยุคสมัย ว่าโลกมันกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ ทั้งกระบวนการผลิต, วิถีชีวิต ตลอดไปจนถึงทัศนะใหม่ต่องานศิลปะ
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/574.jpg?itok=RG-WoTNY)
Paul Renner เริ่มร่างแรกของ Futura ในปี ค.ศ. 1925 และเสร็จเป็นชุดสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1927 นับถึงตอนนี้ 80 กว่าปีแล้ว สุนทรีย์ของ Futura ก็ยังเป็นนิรันดร์, ตลอดเวลาราว 1 ชั่วอายุคนของ Futura ได้ส่งแรงกระเพื่อมต่อๆ ไปเป็นแรงบันดาลใจ นักออกแบบตัวพิมพ์ทั่วโลกทุกชาติภาษารวมทั้งไทย. หลักฐานสําคัญที่แสดงความจริงที่ว่านี้มีอย่างน้อย 2 ชิ้นด้วยกัน ชิ้นแรกคือแบบตัวอักษรลอก สําคัญ 4 (เส้นบาง) และ สําคัญ 5 (เส้น หนา) โดย สําคัญ โกศัลวัฒน์, ชิ้นที่สองคือ DB Erawan ที่ผม ออกแบบให้เข้ากันกับ Futura ExtraBold. สําคัญ 4 และสําคัญ 5 ซึ่งดูจะเป็นแบบอักษรที่ใกล้เคียง Futura ที่สุดนั้น ในเวลาต่อมาได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็น PostScript Font ในชื่อ JS Thanaporn และ JS Boaboon ตามลําดับ. น่าเสียดายที่ความประณีตบรรจงยังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับต้นฉบับจริง, อย่างไรก็ตาม JS Thanaporn ยังได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะดูโปร่งอ่านง่าย ส่วน DB Erawan ก็เช่นกัน นอกจากจะดูกลมเกลี้ยงอย่าง Futura แล้ว ยังคงเป็นฟอนต์ที่แม้จะหนาอย่างที่สุด แล้วก็ยังอ่านง่ายอยู่ จึงคงนิยมใช้กันต่อๆ มา
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/575.jpg?itok=ZzeqCQQm)
แม้ว่า DB Erawan จะถูกปรับปรุงเข้ารหัสแบบ Unicode เรียบร้อยแล้วในปี พ.ศ.2549 ก็ยังคงมีเพียงน้ําหนักเดียว จึงยัง ไม่มีฟอนต์ไทยเสมือน Futura ที่มีครอบครัวใหญ่พอจะจัดเป็นมาตรฐานได้, ช่องว่างที่ผมสังเกตเห็นนี้ในที่สุดได้ถูกเติมเต็ม ด้วยฟอนต์ DB Adman.
ในการออกแบบ DB Adman ผมมิได้เคร่งครัดกับความเป็น Futura จนเกินไป มีการเปิดช่องว่างไว้เพื่อปรุงแต่งสิ่งใหม่เข้าไปบ้าง. ทําไปทํามาแม้แต่ Futura เดิมเองก็ยังถูกปรับปรุงสัดส่วนให้เข้ากับตัวไทยที่เสร็จแล้ว ดังจะได้กล่าวในตอนท้าย
นอกจากจะต้องยึดรูปทรงเรขาคณิตแบบ Futura เป็นตุ๊กตาแล้ว สิ่งที่ผมคํานึงถึงอยู่เสมอก็คือเรื่องการอ่าน, ผมเชื่อว่าตัว เสมือนหรือตัวเฉียดๆ Futura ที่จะเกิดขึ้น อย่างไรเสียก็เป็นตัวพิมพ์ที่เหมาะจะใช้ในการพาดหัวในขนาดโตพอประมาณ. ถ้าจะใช้เป็นตัวเกริ่นนําหรือตัวโปรยในปริมาณไม่มากก็ย่อมอนุโลมได้ แต่ไม่ควรใช้ในขนาดที่เล็กจนเกินไป. จึงน่าจะเป็นการดีถ้าการ ออกแบบ DB Adman จะได้คํานึงถึงตัวเนื้อรูปทรงเรขาคณิตไว้บ้าง, ตัวเนื้อที่เหมาะสมจะใช้ร่วมกันในกรณีงานโฆษณาที่ต้องลง เนื้อหารายละเอียดค่อนข้างมาก หรือกรณีออกแบบหนังสือพิมพ์ นิตยสาร รายงานประจําปี ไปจนถึงแผ่นพับ ฯลฯ. ด้วยวิธีคิดแบบนี้ผมจึงให้ความสนใจไปที่ DB FongNam ตัวเนื้อที่กลมกลืน กับ Avant Garde ญาติของ Futura มากกว่า DB Erawan ตัว ดิสเพลย์ที่เป็นเงาอย่างหนาของ Futura โดยตรง
ระหว่างลงมือร่างผมจึงตั้งคําถามกับตัวเองว่า ทําไม Futura ภาคภาษาไทย ถึงต้องมีตัว ก เป็นรูป U คว่ำเกลี้ยงๆ แบบ Sumkan 4 หรือ DB Erawan? ถ้าใช้สํานวนยอดฮิตตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็ต้องพูดว่า "มันจะเป็นจะตายหรือไง ถ้าตัว ก จะมีปาก! ?" พอได้ลองดูก็ไม่เห็นมันจะเป็นจะตาย (เพราะเป็นปากไก่ ไม่ใช่ปากปลาหมอ) ผมร่างตัว ก และอักษร คล้าย ก ทุกตัว (ถ, ภ, ฌ ญ ฎ ฏ ณ ฯลฯ) ให้มีปากเป็นเส้น ทะแยงมุมไปรับเส้นโค้งบนเหมือน ก ของ DB FongNam, ตัว ถ ที่มีปากชัดเจนแบบนี้ช่วยให้มันดูไม่สับสนว่าเป็นตัว ด (เหมือน ถ, ด ของ Sumkan 4 ซึ่งอาจดูสับสนกันได้)
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/576.jpg?itok=CUEiRsV6)
- ง, จ แทนที่จะเหมือนของ DB Erawan ผมกลับเลือกเอาของ DB FongNam มา. ผลคือทําให้ตัว ง. จ. อ ของ Adman แยกแยะออกจากกันอย่างเด่นชัด และเพราะ 3 ตัวนี้มี ความถี่ในการใช้งานสูง จึงช่วยให้ภาพรวมของข้อความที่พิมพ์ขึ้นมาด้วยฟอนต์นี้อ่านง่าย. โดยสรุปแล้วการที่ผมเลือกเอาตัว ก, ง. จ ของ DB FongNam มาปัดฝุ่นใช้ใหม่ เสมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือได้ทั้ง DB FongNam มาเข้าก๊วนเป็นตัวเนื้อ แถมยังได้แก้ปัญหาคู่สับสนมีผลให้อ่านง่ายขึ้น
- ผ, ฝ มีหัวที่โค้งเข้าตัวตามเข็มนาฬิกา (จากเลข 9 ถึง 12) ทําให้ ดูไม่สับสนกับตัว พ, ฟ.
- ข มีจุดเด่นคือลักษณะขมวดม้วนต่อเนื่องกับเส้นหน้าเป็นรูป S-curve (กลับด้าน) เป็นการเชื่อมต่อของวงกลม 2 วงโดยไม่มีการสะดุด
- ย การเพิ่มรอยหยักด้วยเส้นทะแยงสั้นๆ เข้าออก ทําให้สามารถมาบรรจบกันกับเส้นล่างที่กลมเกลี้ยงแบบฐานตัว บ ได้
- ล ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า จากหัวที่โค้งเข้าหาเส้นหลังล้วน มีรัศมีความโค้งใกล้เคียงกัน ล้อกับรัศมีความโค้งของเส้น บนพอดี, เคล็ดลับที่ทําเช่นนี้ได้ (โดยยังคงสามารถรักษา สัดส่วนให้สัมพันธ์กับรูปอักษรอื่นๆ ทั้งชุดได้นั้น) อยู่ที่การ ตัดปลายหัว ในแนวทะแยงเข้าหาจุดศูนย์กลางความโค้ง ทั้งนี้มีการแก้ดวงตาโดยปล่อยให้ส่วนล่างสุดของหัวเลยตำ่ลงไปจากเส้นฐาน (baseline) เล็กน้อย
เมื่อรวมกันเข้ากับการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น หัวไม้โทแบบเลข 2 ที่ตัดปลายหัวในแนวทะแยง หรือการันต์ รูปตัว J ฯลฯ ช่วยทําให้ DB Adman กลายเป็นตัวแทนสุนทรีย์ ของวิถีชีวิตใหม่ที่มีเอกลักษณ์, ชุดอักษรโรมันของ Futura มีช่วง ascender ยาวขึ้นไปเท่าความสูงตัวตามทําให้ดูค่อนข้างรุ่มร่าม ไปสําหรับตัวอักษรไทยใน DB Adman. ความสูงของตัวอักษรนําของ Futura เดิมมากเป็น 2 เท่าของตัวอักษรตาม ถ้าเรานําสัดส่วนเดิมๆ มาย่อเพื่อให้ตัวเลข (ซึ่งสูงเท่าตัวอักษรนํา) ดูเหมาะสมกับความสูงตัวพยัญชนะไทย เราจะได้ตัวอักษรตามที่เล็กเกินไป. ปัญหาทั้งหมดที่พบใน Futura ได้รับการแก้ไข รวมไปจนถึงปลายตัวอักษรโรมันเดิมที่แหลมจัด (เช่น A, N) ที่ดูไม่ค่อยเข้ากับชุดภาษาไทย ก็ถูกเฉือนทิ้งไปเล็กน้อยไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็นได้ชัด
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/577.jpg?itok=OeuiF569)
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/578.jpg?itok=3HByeLdW)
DB Adman ทั้ง 4 น้ําหนักคือ UltraLight, Light, Regular, Bold ถูกนําไปเติมเส้นตรงในแนวตั้งและตั้งชื่อใหม่ให้สอดคล้อง ว่า DB BrandVoice (วิธีนี้ยังคงรักษาความกลมไว้ได้ ต่างจาก Futura Condensed ที่ตัว 0 จะดูเป็นวงรี), DBAdman จากน้ําหนัก Light ขึ้นไปถูกนําไปตกแต่งปลายให้มน เป็น DB Adman Rounded. ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี DB Adman Sprayed ที่ตัดแต่ง จาก DB Adman Bold เพิ่มขึ้นมาให้นักออกแบบได้ใช้อย่างจุใจ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถใช้ครอบครัว Adman ร่วมกันไปแบบครอบจักรวาลได้ ถ้าจะใช้ตัวเล็กๆ 14-18 พอยต์เป็น text ให้อ่านนานๆ ควรเปลี่ยนไปใช้บริการของ DB FongNam. (ดูตัวอย่าง ได้จาก Mag Ad. ของ รมย์รวินท์คลินิก, นิตยสารบ้านและสวน Center Point, และ a font a month ที่คุณกําลังอ่านอยู่นี้)
ในทางกลับกัน ใครก็ตามที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ DB FongNam, DB Soda, หรือฟอนต์ตัวเนื้อค่ายอื่นๆ ที่มีรูปทรง เรขาคณิตเหมือนๆ กันก็ตาม, การมี DB Adman รวมทั้ง DB BrandVoice ใช้ร่วมกันให้ครบเครื่อง น่าจะเป็นการช่วยส่งสําเนียง ของแบรนด์ออกมาอย่างมีสุนทรีย์... สุนทรีย์ของวิถีชีวิตใหม่ ที่สร้างจากเครื่องมือแห่งอารยธรรมใหม่ที่ชื่อว่า FontLab
ไม่ใช่จากน้ํามือมนุษย์ธรรมดาอย่างผม.
![](/asset/styles/card_md_1/public/images/articles/img/20230625/579.jpg?itok=WqawoAad)